(ขอบคุณบทความดีๆจาก นิตยาสารเพื่อนแพนฉบับที่ Vol.30 No.189 ISSUE 2/2556)
รังสียูวี หรือ ที่แปลเป็นไทยว่ารังสีเหนือม่วงนั้น เป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคน เป็นสิ่งที่สัมผัสได้แต่ไม่สามารถมองเห็นได้ มีทั้งคุณและโทษต่อมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเราที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรอันเป็นบริเวณที่ UV Index สูงที่สุดของโลก จึงจำเป็นต้องทำความรู้จักถึงอันตรายและประโยชน์ของรังสียูวีเอาไว้เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของคุณ
อันดับแรกมาทำความรุ้จักกับคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Wave) กันก่อนคลื่นนี้ประกอบด้วยสนามไฟฟ้าและสนามแม่เหล็กที่สั่นในแนวตั้งฉากกัน เคลื่อนที่โดยไม่อาศัยตัวกลางจึงวิ่งผ่านสูญญากาศได้ อัตราเท่ากับความเร็วแสงคือ 3x10^8 เมตรต่อวินาที และไม่มีประจุไฟฟ้า
รังสียูวีนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษต่อมนุษย์ โดยรังสียูวีในขนาดต่ำๆ จะช่วยในการสังเคราะห์วิตามินดีที่ผิวหนัง แต่ถ้าได้รับในปริมาณที่สูงเกินไปรังสียูวีบีจะทำลายเซลล์ผิวหนังชั้นหนังกำพร้า ทำให้เกิดผิวไหม้แสบลอก ผิวหมองคล้ำ
ส่วนรังสียูวีเอ เมื่อได้ผ่านลงไปได้ถึงชั้นหนังแท้ และได้รับต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ จะทำลายคอลลาเจนและอีลาสติน ทำลายไฟโบรบลาสต์ จึงทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น จุดด่างดำกดภูมิคุ้มกันของผิวหนัง ทำลาย DNA ทำให้เซลล์กลายพันธุ์และแบ่งตัวผิดปกติ ตามมาด้วยเนื้องอกหรือมะเร็งผิวหนังได้ โดยผู้ที่มีผิวขาวจะมีความเสี่ยงมากกว่าเนื่องจากมีเมลานินที่ช่วยปกป้องอยู่น้อยกว่านั่นเอง
นอกจากนี้รังสียูวียังส่งผลก่อให้เกิดอันตรายต่อดวงตาด้วย แต่มีผลค่อนข้างน้อย ถ้าได้รับรังสียูวีความเข้มสูง จะเกิดกระจกตาอักเสบมีอาการแสบตา น้ำตาไหล แพ้แสง ตาแดง ส่วนระยะยาวจะเกิดต้อลม ต้อกระจก ในอนาคตจอตาอาจเสื่อมได้
ซึ่งแหล่งกำเนิดของรังสียูวีตามธรรมชาติก็คือ ดวงอาทิตย์คนส่วนใหญ่ได้รับรังสียูวีจากแสงแดดนั่นเอง
หลักง่ายๆ ที่ช่วยป้องกันผลกระทบของรังสียูวีต่อผิวหนังอันจะทำให้ผิวคล้ำเสีย และเป็นริ้วรอยก่อนวัย
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลา 10.00-16.00 น.
- หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีรังสียูวีสูง เช่น ยอดเขาที่มีหิมะ หาดทรายหรือ ชายทะเลตอนกลางวัน พื้นที่ที่มีการสะท้อนของแสงแดด จากกระจกอาคาร ผิวน้ำ
- ทากันแดดที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไป และควรทาทุกวันอย่างสม่ำเสมอ
- ใส่เสื้อผ้ามิดชิด สวมหมวกปีกกว้าง กางร่ม เมื่อต้องโดนแดดจัด
- ใส่แว่นตาที่ป้องกันรังสียูวีได้ ควรระวังแว่นกันแดดที่ไม่ได้มาตรฐานที่อาจทำให้จอประสาทตาได้รับรังสียูวีมากเกินไป
- ในกรณีที่อยู่ทำงานใกล้หน้าต่าง ควรมีม่านกันแสง หรือ ติดฟิล์มกันรังสียูวีที่หน้าต่าง รวมทั้งติดฟิล์มกันรังสียูวีที่กระจกรถยนต์ด้วย
เคล็ดลับเหล่านี้สามารถใช้กับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กเล็กที่มีผิวบอบบางที่ไวต่อแสง จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่สามารถป้องกันได้ทั้งรังสียูวีเอ และยูวีบี โดยใช้ค่าSPF ที่เหมาะกับกิจกรรมในแต่ละวันเพื่อป้องกันผิวจากรังสียูวีให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ของแบบนี้เชื่อเถอะค่ะ ว่ากันไว้ดีกว่าแก้
หน้าที่เข้าชม | 636,620 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 263,054 ครั้ง |
เปิดร้าน | 19 มิ.ย. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 7 ก.ย. 2568 |