UPF คืออะไร

หลายๆคน คงคุ้นเคยกับคำว่า SPF กันดี เนื่องจากเป็นคำที่เราพบเห็นกันอยู่บ่อยๆ ตามหน้ากระปุกครีมกันแดด ซึ่ง SPF ย่อมาจาก Sun Protection Factor ซึ่งค่านี้จะบอกถึงระยะเวลาในการที่เราอยู่กลางแจ้งได้นานแค่ไหนโดยที่ผิวของเราไม่มีอาการใดๆ เช่น ค่า SPF 15 หมายถึง เราสามารถอยู่กลางแจ้งได้นานขึ้น 15 เท่าของระยะเวลาปกติที่เราไม่ใช้อะไรป้องกัน แต่ถึงอย่างไรแล้ว ค่าSPF ที่มากขึ้น ไม่ได้บอกถึงว่าสามารถป้องกันรังสีUV ได้มากขึ้น แต่เป็นสามารถอยู่กลางแจ้งได้นานขึ้นเท่านั้น และค่า SPF นั้น เป็นค่าที่บอกถึงค่าการป้องการรังสีUVBเท่านั้น ซึ่งหากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่ใช้ค่า SPF  จะระบุค่าการป้องกันรังสีUVA หรือ PA มาด้วย โดยจะมีอยู่ 3 ระดับ คือ PA+, PA++ และ PA+++

แล้วคำว่า UPF (ที่หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว) นั้นหมายถึงอะไร??

วันนี้เราจะได้รู้คำตอบกันค่ะ

UPF ย่อมาจาก Ultraviolet Protection Factor โดยมากค่านี้จะนำมาใช้ในวงการผ้าเพื่อเป็นการบอกว่าผ้าชนิดต่างๆ สามารถกันรังสียูวีเอ และ ยูวียีได้ดีแค่ไหน โดย UPF จะมีค่าอยู่ที่ 15 ถึง 50   โดยค่า UPF จะวัดจากปริมาณรังสียูวีที่ผ่านเนื้อผ้ามาสู่ผิวหนัง โดยปกติผ้าที่มี UPF สูงจะเป็นการบอกว่ามีความสามารถในการป้องกันยูวีได้ดีกว่า ผ้าที่มีค่า UPF ต่ำ โดยค่า UPF 15 หรือ 20 จะจัดว่าช่วยป้องกันแดดได้ดี ส่วนถ้าค่า UPF เท่ากับ 25, 30 หรือ 35 จะกันแดดได้ดีมาก และถ้าค่า UPF เท่ากับ 40, 50 หรือ 50+ จะกันแดดได้ยอดเยี่ยม 

ตารางข้างล่างเป็นการเปรียบเทียบค่า UPF กับความสามารถในการกันแสงยูวี

ตัวอย่างของผ้าชนิดต่างๆที่มีความสามารถในการป้องกัน รังสียูวีได้ดีมากและน้อยค่ะ เผื่อใช้ในการเลือกซื้อเสื้อผ้าครั้งต่อไปกันค่ะ

Provide better protection:

• Specially manufactured fabrics
• ZnO Cotton Viscose fabrics
• black or dark blue denim jeans
• wool garments
• Satin finished silk of any weight
• polyacrylonitrile
• 100%polyester
• Shiny polyester blends
• tightly woven fabrics
• unbleached cotton(most cotton sold is bleached)

Provide low protection:

• polyester crepe
• bleached cotton
• viscose
• knits
• undyed/white jeans
• worn/old fabric